milkyway 6
milkyway 7
milkyway 8
Technology
20 กุมภาพันธ์ 2566
ภาษาไทย

ทำไม Cross-Chain Messaging จึงสำคัญต่ออนาคต Web 3.0 ?

การพัฒนาแบบแยกส่วนหรือขาดการทำงานร่วมกันเนื่องจากขาดความสามารถในการทำงานร่วมกัน (Interoperability) ระหว่างแพลตฟอร์ม เป็นปัญหาที่นักพัฒนาแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dApp) ได้เพิ่มความเร่งด่วนให้กับการแก้ไข และปัจจุบันยังขาดความสามารถในการสร้างแอปพลิเคชันที่ทำงานข้ามเครือข่ายอีกมาก โดยจุดประสงค์บทความนี้เพื่อให้เข้าใจความสำคัญว่าทำไม Cross-Chain Messaging จึงมีความสำคัญต่ออนาคตของโปรเจกต์ Blockchain และ Web 3.0 ในอนาคต

Arti6_685X511.jpg
Cross-Chain Communication/Messaging คืออะไร?


Cross-Chain Communication/Messaging มีความสำคัญที่ทำให้การทำงานของเทคโนโลยีเกิดการกระจายศูนย์อย่างแท้จริง ซึ่งโปรเจกต์ Blockchain แต่ละแห่งมีโครงสร้างที่แตกต่างกันมาก จึงทำให้บางครั้งไม่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างเครือข่ายได้โดยที่ไม่มีซอฟต์แวร์หรือตัวกลางอื่นๆ เข้ามาช่วย และเป็นสาเหตุที่ทำให้วิธีการสื่อสารหรือส่งข้อมูลแบบข้ามเครือข่ายเป็นที่ต้องการและให้ความสำคัญมากขึ้น 

Cross-Chain Messaging เป็นการใช้ Smart Contract ส่งผ่านข้อมูลระหว่างเครือข่าย Blockchain อย่างอิสระ และสำคัญกับ Web 3.0 ด้วยเหตุที่การใช้งานใน Web 3.0 โดยทั่วไปผู้ใช้ต้องจัดการกับสินทรัพย์และเข้าถึง dApps 

โดย Cross-Chain Messaging ช่วยเชื่อมต่อผู้ใช้ไปยังเครือข่ายที่ได้รับการตรวจสอบความน่าเชื่อถืออื่นๆ ซึ่งช่วยสร้างเครือข่ายของการกระจายศูนย์ที่ผู้ใช้สามารถสื่อสารและโต้ตอบกับ dApps ได้สะดวกโดยไม่ต้องอาศัยสะพานเชื่อมหรือขั้นตอนอื่นๆ ที่ซับซ้อนกว่า จึงส่งผลให้ Web 3.0 เกิดการทำงานร่วมกันและมีการกระจายศูนย์ได้อย่างแท้จริง โดยที่ทั้งผู้ใช้และนักพัฒนา dApp จะได้รับประสบการณ์เข้าถึงที่สะดวกเพียงหนึ่งคลิก 


ทำไม Cross-Chain Messaging มีความจำเป็นใน Web 3.0 ? 

ระบบนิเวศแบบ Multi-Chain เริ่มมีการใช้งานจริงมากขึ้นใน Web 3.0 จึงมีความจำเป็นสำหรับการโต้ตอบระหว่างเครือข่าย Blockchain ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว 

หลังจากที่ dAapps ใน Web 3.0 ผ่านวิวัฒนาการหลายครั้งและได้มาถึงจุดที่สามารถใช้งานได้บนเครือข่ายเดียวพร้อมไปกับการปรับใช้ไปยังเครือข่ายที่หลากหลาย แต่วิธีในการดำเนินการยังคงไม่สมบูรณ์และเกิดการกระจัดกระจาย ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหา เช่น การกระจายตัวของสภาพคล่องไปยังหลายตลาด และการลอกเลียนแบบ dApp เป็นต้น 

ทั้งนี้ Blockchain แต่ละเครือข่ายสามารถรับมือกับปัญหาดังกล่าวได้โดยสร้างให้เกิดการทำงานร่วมกันมากขึ้น รวมถึงมีการแบ่งปันข้อมูลด้านตรรกะทางธุรกิจระหว่างแต่ละเครือข่าย เช่น Smart Contract และ Block Data ไม่ใช่แค่เพียงสภาพคล่อง ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้และสภาพคล่องจะไม่ถูกจำกัดอยู่เพียงในระบบนิเวศเดียว แต่จะได้รับการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและอิสระข้ามเครือข่าย


Use Cases ที่น่าสนใจ 

ยกตัวอย่าง Use Cases จากโปรเจกต์ ‘Axelar’ เครือข่ายที่จะช่วยให้แต่ละ Blockchain สามารถสื่อสารและทำงานร่วมกันได้อย่างปลอดภัยบน Web 3.0 เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานที่ช่วยให้ผู้ใช้ dApp สามารถมีปฏิกิริยากับสินทรัพย์หรือแอปพลิเคชันบนเครือข่ายใดก็ได้เพียงคลิกเดียว 

ความน่าสนใจโซลูชัน Cross-Chain Communication ของ Axelar คือการรักษาความปลอดภัยเครือข่าย ซึ่งใช้ระบบ Delegated Proof-of-Stake (DPoS) กลไกแบบ Permissionless ที่มีการสุ่มคัดเลือกผู้ตรวจสอบธุรกรรม (Validator) แต่โดยส่วนใหญ่โซลูชัน Cross-Chain Communication อื่นๆ มักใช้วิธีการใช้หลายลายเซ็น (Multisig) ที่ยังมีช่องโหว่ค่อนข้างมากทำให้มีความเสี่ยงมากกว่า

ส่วน Use Cases จาก Axelar ได้แก่ 

  • สร้าง Cross-Chain DEX หรือ AAM ที่เชื่อมต่อสภาพคล่องจากหลากหลายเครือข่าย หรือเรียกว่าคอนเซปต์ “Composable Liquidity” 
  • สร้างให้ DAOs สามารถประสานงานในทุกกิจกรรมได้ทุกแห่งบน Web 3.0 หรือ “Cross-Chain governance” 
  • “Cross-Chain NFTs” โดยสามารถใช้ NFTs ค้ำประกันบนเครือข่ายต่างๆ บน DeFi หรือในแง่การเล่นเกมก็สามารถทำให้สินทรัพย์ใดๆ ก็ตามเป็นเงินหรือ Credential ได้

นอกเหนือจากโปรเจกต์ Axelar ยัง มี Use Cases อื่นๆ อีกจำนวนมากจากหลายโปรเจกต์ที่น่าติดตามจากประโยชน์ของการ Cross-Chain Messaging อย่างเช่น คอนเซปต์ One-Click NFT Purchases ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถซื้อ NFT ที่ชื่นชอบได้โดยไม่ต้องนึกถึงเรื่องการเปลี่ยนเครือข่ายหรือแปลงสินทรัพย์ที่ต้องใช้ในการทำธุรกรรม 

เนื่องจาก Cross-Chain Messaging ทำให้ผู้ใช้สามารถเก็บเงินไว้ในเครือข่ายที่พวกเขาเลือก และสามารถใช้สินทรัพย์และซื้อ NFT ในการทำธุรกรรมเพียงครั้งเดียว โดยไม่ต้องสลับ เชื่อมโยง และโต้ตอบกับ dApp ด้วยตนเอง และผลลัพธ์ที่ได้คือประสบการณ์การ Mint NFT แบบคลิกเดียวที่ใช้งานได้ง่าย

หากเครือข่าย Blockchain ไม่ให้ความสำคัญกับ Cross-Chain Messaging มากขึ้น จะส่งผลกระทบอย่างไรในอนาคต?

Cross-Chain Messaging เป็นคอนเซปต์ที่มีวิวัฒนาการจากกลไกเล็กๆ จนกลายเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของ DeFi และหลายคนต่างคาดการณ์ถึงอนาคตที่เป็น Multi-Chain ซึ่งส่วนของการดำเนินการของเครือข่ายต่างๆ สามารถเชื่อมถึงกันและทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการแลกเปลี่ยนข้อมูลหรือสภาพคล่อง

นอกจากนี้ Cross-Chain Messaging ถือว่าเป็นโซลูชันสำคัญที่สามารถรับมือกับปัญหา อย่างเช่น การกระจายตัวของสภาพคล่อง (Liquidity Fragmentation) การโคลนนิ่ง dApp รวมถึงปัญหาความซับซ้อนของ UX ที่สร้างปัญหาให้กับ Web 3.0 มาตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น 

ที่สำคัญใน Web 3.0 หลายฝ่ายต่างพัฒนาความสามารถในการทำงานร่วมกันของแต่ละเครือข่าย และปฏิเสธไม่ได้ว่าประสบการณ์การใช้งานผู้ใช้เป็นหัวใจหลักเพื่อให้เกิดการใช้งานในกระแสหลัก และอย่างที่ได้เห็นใน Web2 อย่างชัดเจนว่าการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้และการทำธุรกรรมที่ง่ายขึ้นเป็นส่วนสำคัญอย่างมากที่ส่งผลให้มีจำนวนผู้ใช้มากขึ้นในทุกแพลตฟอร์มและธุรกิจ

ดังนั้น หากเครือข่าย Blockchain ต่างๆ ไม่ปรับตัวและปรับใช้คอนเซปต์ Cross-Chain Messaging ในอนาคตก็อาจส่งผลให้เครือข่ายของตนเผชิญความโดดเดี่ยวและไม่สามารถบรรลุสู่การใช้งานกระแสหลักได้

RELATED BLOG

thumb 0
Technology
28 เมษายน 2568
วิเคราะห์ศักยภาพ AI ในการคาดการณ์แผ่นดินไหว: โอกาส และความท้าทายในอนาคต

Use and Management of Cookies

We use cookies and other similar technologies on our website to enhance your browsing experience. For more information, please visit our Cookies Notice.

Reject
Accept